Posted on

9 ปัญหาผิวของผู้สูงวัย…นำไปสู่ผลร้ายที่คาดไม่ถึง มีผู้สูงวัยที่บ้านต้องระวัง

ผิวหนังของมนุษย์เป็นอวัยวะของร่างกายที่สำคัญ มีหน้าที่ปกป้องอันตรายให้กับอวัยวะต่างๆของร่างกายที่อยู่ภายใน นอกจากนี้ผิวหนังยังทำหน้าที่คอยควบคุมความร้อนความหนาว ของร่างกายอีกด้วย ร่างกายของเราจึงมีการขับเหงื่อและไขมันออกทางผิวหนังเพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิและทำให้ผิวหนังมีความอ่อนนุ่มอีกด้วย  โดยธรรมชาติผิวหนังจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดและมักทำให้เกอดปัญหาได้ง่าย เพราะคนส่วนใหญ่มองข้ามเรื่องการดูแลผิวหนังในผู้สูงวัย

นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ เนื่องจากปัจจุบันมีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคมอย่างรวดเร็ว ร่วมกับมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและการแพทย์ที่ทันสมัยมากขึ้น จึงทำให้ผู้สูงอายุมีอายุยืน โดยผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีสุขภาพแข็งแรง ยังทำงานได้เหมือนหนุ่มสาว อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าผู้สูงอายุจะมีอายุยืนยาวขึ้นกว่าเดิม แต่ร่างกายมีการเสื่อมของอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะผิวหนังจะพบมีการเหี่ยวย่น ตกกระ มีจุดด่างดำและจุดขาว ดังนั้นการดูแลผิวที่ถูกวิธีจึงจำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากโรคผิวหนังส่วนใหญ่มีอาการเรื้อรังทำให้ต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ

ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของผิวเมื่ออายุมากขึ้น
1. ผิวหนังมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ
ได้มีผู้ทำการศึกษาทางจุลทรรศน์อิเล็กตรอนพบว่าเส้นใยอีลาสติกเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่อายุ 30 ปี โดยพบการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อย ในผิวของผู้สูงอายุยิ่งถ้าได้รับแสงแดดมากขึ้น เส้นใยอีลาสติกเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงซึ่งมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า คือ ผิวซีด เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวหนังหยาบ หลอดเลือดเปราะเกิดรอยฟกช้ำง่าย มีจุดกระดำกระด่าง มีเนื้องอกเกิดขึ้นตามคอและใบหน้า ซึ่งเรียกว่า “กระเนื้อ”

เมื่ออายุมากขึ้นการหมุนเวียนทดแทนเซลล์ผิวหนังเก่าจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าจะหลุดลอกและเปลี่ยนแปลงเซลล์ใหม่ในเวลา 4 สัปดาห์ แต่วงจรนี้จะเพิ่มเป็น 2 เท่าในผู้สูงอายุ ทำให้ผิวหนังแห้งเป็นขุย มีสะเก็ด

ช่วงวัยรุ่นผิวจะค่อนข้างมันพอเข้าสู่วัยกลางคนผิวเริ่มเสื่อม รูขุมขนขยายกว้างขึ้นมีริ้วรอย และเมื่อถึงวัยสูงอายุริ้วรอยจะเห็นชัดขึ้นผิวหนังหย่อนคล้อยมีร่องแก้ม ร่องใต้ตา ผิวแห้งเป็นขุยและคัน เพราะผิวเสื่อมสภาพ ไขมันใต้ผิวน้อยลง ส่งผลให้ความต้านทานของผิวต่อสภาพอากาศและแสงแดดน้อยลง แพ้สิ่งต่างๆ ได้ง่าย

2.สภาพแวดล้อม
สภาพแวดล้อมต่าง ๆ  เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อปัญหาผิวของผู้สูงวัยที่แตกต่างกัน เช่น แสงแดด อุณหภูมิของอากาศ ภูมิประเทศ อาชีพการงาน

3.พฤติกรรม
ในช่วงวัยหนุ่มสาว
แต่ละคนมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตแตกต่างกัน บางคนนอนดึก สูบบุรี่ กินเหล้า ทำงานกลางแดด สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ส่งเสริมให้มีการเปลี่ยนแปลงต่อผิวหนังทั้งสิ้น

4.ภูมิต้านทานในผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลง
ทำให้มีโอกาสติดเชื้อโรคง่าย ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา การทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งผลิตไขมันน้อยลง ทำให้ความต้านทานของผิวต่อแสงแดด ลม ฟ้า อากาศ และแรงกระแทกเปลี่ยนแปลงไป เกิดอาการแพ้สิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย เวลารับประทานยาทั่ว ๆ ไป จะมีอาการแพ้ง่ายกว่าคนปกติในวัยหนุ่มสาว

9 ปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ

  1. อาการคัน
    ในผู้สูงอายุเพียงแค่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงก็อาจทำให้เกิดอาการคันได้ หรืออาจเกิดจากการสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง พืชบางชนิด สารเคมีที่เคยใช้ได้ปกติบางครั้งก็กลับทำให้คันได้เช่น ผงซักผ้า สบู่ เป็นต้น บางรายอาจเกิดจากโรคประจำตัวเช่น โรคไตวาย บางคนเกิดจากความเครียดก็ทำให้คันได้
  1. ผิวหนังเป็นตุ่มเป็นก้อน
    เช่น กระเนื้อ มะเร็งของผิวหนัง มะเร็งเม็ดสี มักพบในคนที่มีผิวขาว จะระคายเคืองเมื่อถูกแสงแดดเป็นเวลานาน
  2. การตกกระผิวเปลี่ยนสี ในผู้สูงอายุ
    จะพบมากในผู้สูงอายุที่มีประวัติของคนในครอบครัวเป็น มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลขอบไม่เรียบขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 มิลลิเมตรถึงหลายเซนติเมตร ส่วนใหญ่จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร และจะใหญ่และเพิ่มจำนวนขึ้นเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นมักเกิดกับส่วนที่โดนแดดบ่อยๆ เช่น ที่หน้าและหลังมือ
  1. ผิวหนังอักเสบจากการแพ้ยา
    สาเหตุเกิดจากการแพ้ยาบางชนิด โดยเฉพะยาพื้นบ้าน ยาจีน สมุนไพรและน้ำมันนวดต่างๆหรือเกิดจากสิ่งแวดล้อม ยาปฏิชีวนะ ยาที่ทำให้เกิดการแพ้ เช่นยาแก้ปวดกระดูก ยาลดความดันเลือด ยาแก้ไอ ยาขับปัสสาวะ เป็นต้น เนื่องจากผู้สูงอายุจะใช้ยากลุ่มนี้อยู่บ่อยๆ จึงทำให้การแพ้ยาเพิ่มมากขึ้นและมีอาการคันเกิดผื่นมีตุ่มน้ำพองใสจนถึงขั้นเกิดการอักเสบของผิวหนัง
  1. การอักเสบของผิวหนัง
    โดยเฉพาะคนที่มีผิวหนังแห้ง เมื่ออากาศแห้งหรือหนาวเย็น ผิวหนังจะมีลักษณะเป็นหย่อมสีแดง แห้ง อาจมีแผลเป็นและแตกระแหง มีอาการคันที่แขนขาอาการจะเป็นมากในช่วงหน้าหนาวและจะหายไปในหน้าร้อน
  1. แผลกดทับ
    เกิดจากแรงกดทับทำให้เนื้อเยื่อขาดเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยง จึงทำให้เกิดการเน่าตายของผิวหนัง พบบ่อยตรงบริเวณก้นกบ สะโพก ข้อศอกจะพบบ่อยในผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ นอนบนเตียงเป็นเวลานานๆ ยิ่งในบางรายมีการขาดสารอาหารอยู่ด้วยจะมีอาการรุนแรงมากขึ้น
  1. สิว
    มักพบในคนสูงอายุ ที่โดนแสงแดดมาก และนานๆ เช่น ชาวนา ชาวสวน มักพบเป็นสิวอุดตันหัวปิด บริเวณรอบๆ ตาและโหนกแก้ม และอาจจะขยาย เป็นสิวหัวเปิด ไม่มีลักษณะเป็นสิวอักเสบ บวมแดง
  2. จุดด่างดำในผู้สูงอายุ (ซีไนล์ เลนติโก้)
    เป็นผื่นราบสีน้ำตาลขนาดเล็กขอบเรียบรูปร่างกลมซึ่งปรากฎที่หน้า คอ หรือหลังมือ สาเหตุเกิดจากมีเม็ดสีในผิวหนังมากขึ้นที่ผิวหนังบริเวณนั้น ผื่นเหล่านี้ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด แม้ว่าผื่นเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับการมีอายุมากขึ้น แต่สาเหตุหลักของผื่นชนิดนี้ไม่ใช่อายุ แต่เป็นการสัมผัสแสงแดดและลมมาเป็นเวลาหลายปี
  3. รอยเหี่ยวย่นในผู้สูงอายุ (แอคตินิค อีลาสโตสิส)
    เป็นการแก่ตัวของผิวหนังที่เกิดขึ้นก่อนวัย เกิดจากการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อยืดหยุ่นในชั้นผิวหนังแท้เนื่องจากการสัมผัสแสงอาทิตย์เป็นระยะเวลานาน

ปัญหาผิวหนังของผู้สูงอายุและสาเหตุที่พบตามข้างต้นควรต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพื่อให้สภาพร่างกายของผู้สูงอายุรวมถึงสุขอนามัยของผู้สูงอายุกลับมาดีได้ตามเดิม และสามารถใช้ชิวิตประจำวันเป็นปกติยู่กับลูกหลานได้อย่างมีความสุข

การดูแลป้องกันปัญหาผิวของผู้สูงอายุ

ปัญหาผิวของผู้สูงอายุหากละเลยไม่ดูแลอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา เนื่องจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีโรคเรื้อรังที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเช่น เบาหวาน เพียงแค่อาการคันของผิว แล้วเกาอาจทำให้เกิดการอักเสบเป็นแผลพุพอง หากเป็นเบาหวานแผลจะหายยาก ส่งผลร้ายค่อนข้างมาก  ดังนั้น การป้องกันดูแลผิวหนังจึงจำเป็น และควรปฏิบัติตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยมีข้อแนะนำดังนี้

  1. การอาบน้ำ ไม่ควรอาบน้ำร้อน หรือถ้าจำเป็นก็ควรใช้ครีมทาผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิว โดยทาหลังอาบน้ำ และผิวที่แห้งมากอาจไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ และอาบเพียงวันละ 1 ครั้งก็พอ
  2. ไม่ควรขัดผิว
  3. ไม่ควรใช้ผงซักฟอกแรงเกินไป
  4. แต่งตัวโดยใช้เสื้อผ้าที่เหมาะสม
  5. ใช้เครื่องสำอางเท่าที่จำเป็นและปลอดภัย
  6. ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และไม่สูบบุหรี่
  7. หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และควรใช้ครีมกันแดดเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวถูกแสงแดดมากเกินไป เพราะนั่นอาจเป็นสาเหตุของผิวแก่ก่อนวัยและมะเร็งผิวหนังได้
  8. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
  9. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  10. พยายามไม่ให้เครียด
  11. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ถนอมผิวให้เหมาะสม
  12. เมื่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังในผู้สูงอายุ เช่น ผิวหนังอักเสบจากการระคายเคือง หรือการแพ้ยา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย และการเป็นเรื้อรัง เนื่องจากในผู้สูงอายุการตอบสนองต่อการรักษาจะไม่ดีนัก แผลมักจะหายช้า ดังนั้นการให้การวินิจฉัยที่ถูกต้องและรวดเร็วจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

การเลือกผลิตภัณฑ์ถนอมผิวในผู้สูงอายุ

  1. ประเภทเคลือบผิวหนังปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน (occlusive) ออกฤทธิ์ปิดกั้นการซึมผ่านของน้ำในผิวหนังออกสู่ภายนอก เมื่อทาบนผิวหนังจะคลุมผิวหนัง ทำหน้าที่คล้ายเกราะอ่อนๆ ป้องกันสารเคมีไม่ให้ระคายผิวหนังสังเกตสารที่ระบุข้างขวด สารประเภทนี้ ได้แก่ lanolin, petroleum และ mineral oil
  2. ประเภทดูดน้ำให้ผิวหนัง (humectant)จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง โดยการจับน้ำจากบรรยากาศ และรักษาน้ำบนผิวหนังไว้ไม่ให้ระเหยไป สารกลุ่มนี้ได้แก่ lactic acid, urea, glycerol และ polyol
  3. ประเภทป้องกันแสงแดด (sun block) จะช่วยป้องกันแสงอัลตราไวโอเลตเอ และบี (UVA, UVB) ที่มาทำลายผิวหนังที่ สารประเภทนี้ได้แก่ Titanium dioxide, Ocyl Methoxycinnamate, Ethylhexyl p-Methoxycinnamate เป็นต้น

 

อ้างอิง  1.https://www.eldertrend.com
2.http://anti-aging.mfu.ac.th/admin/uploadCMS/research/2aWed125257.pdf
3.https://www.thaipost.net/main/detail/40943

 

by : eedsbuyzone